วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ใครจะเชื่อว่าวันนี้ก้อนเมฆ ลอยมาอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว!!

สวัสดีครับ สำหรับ อีสานอินดี้ วาไรตี้ วันนี้เราขอเสนอ ให้เพื่อนๆ ที่ชอบมองท้องฟ้า เป็นชีวิตจิตใจ คงเคยเห็นจินตนาการของก้อนเมฆ ที่บางครั้งเราก็เห็นก้อนเมฆแปลเปลี่ยนเป็นรูปเป็นร่างต่างๆ มากมาย แล้วแต่ทิศทางลมและจินตนาการของเรา ใช่ไหมครับ วันนี้จะพาเพื่อนๆ ไปชมก้อนเมฆกันครับ แต่เดี๋ยวก่อนไม่ใช่ก้อนเมฆที่อยู่บนฟ้าครับ แต่มันเป็น ก้อนเมฆ ที่อยู่ในห้อง อ่ะๆ เริ่มสนใจแล้วใช่ไหมละ ตามผมมาเลยครับ

ใครจะไปเชื่อว่า ก้อนเมฆ วันหนึ่งมันจะมาลอยอยู่ในห้องว่างเปล่าได้ ไม่ใช่เทคนิคการทำวีดีโอหรือรีทัชด้วยโฟโต้ช็อปที่ระดับเซียนเขาทำกันนะครับ แต่เกิดขึ้นเมื่อศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์รายหนึ่ง ได้ปิ๊งไอเดียสุดเจ๋ง ไม่รู้คิดออกมาได้อย่างไร เขาสามารถยกเมฆเข้ามาลอยในห้องได้อย่างน่าทึ่ง ใครอยากเห็นก็เข้ามาดูเลยครับ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ทำให้เมฆลอยในห้องที่เห็นอยู่นี้ เป็นฝีมือของ เบร์นเนาท์ สมิลด์ ศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์ โดยเขาได้ใช้เครื่องสร้างควัน ใช่ครับมันคือ "ควัน" เพื่อสร้างกลุ่มก้อนเมฆขึ้นมาก้อนหนึ่ง และทำให้มันรวมตัวกันกลายเป็นเมฆ ภายในห้องที่มีการควบคุมความชื้น และอุณหภูมิ ที่พอเหมาะ จึงทำให้เกิดเป็นงานศิลปะก้อนเมฆในห้องว่างเปล่าอย่างที่เห็น สวยงามจนบอกไม่ถูกเลยครับ

วิธีการทำให้ก้อนเมฆ ลอยมาอยู่ในห้อง

ซึ่งศิลปินจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ชาวเนเธอร์แลนด์ คนนี้ เบร์นเนาท์ สมิลด์ เขาได้เปิดเผยว่า "ผมได้คิดโปรเจคท์นี้ขึ้นมา เพื่อให้ผู้เข้าชมผลงานของผมมองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากเมฆที่ลอยอยู่กลางห้องก้อนนี้ แถมยังให้ความรู้สึกว่าฝนกำลังจะตกด้วย" อ่ามีฝนด้วย สุดยอดเลยใช่ไหมครับ อย่างไรก็ตาม ก้อนเมฆทีเห็นอยู่จะปรากฏให้เห็นได้เป็นพักๆ เท่านั้น ไม่สามารถอยู่ในห้องได้ตลอดเวลา ก่อนที่จะค่อย ๆ เลือนหายไป และครั้งนี้ ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ เบร์นเนาท์ สมิลด์ สร้างสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมดังกล่าว แต่ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2010 เขาก็เคยจัดนิทรรศการแสดงผลงานเมฆลอยในห้องว่างเปล่าที่ใช้ ชื่อว่า นิมบัส ให้คนที่เข้ามาชมได้อึ้งกันครั้งหนึ่งนั่นเองครับ

เป็นอย่างไรครับ ใครที่คิดว่าก้อนเมฆที่อยู่บนฟ้า จะไม่สามารถลอยมาอยู่ตรงหน้าของเราได้ นอกเสียจากต้องนั่งเครื่องบินไปกระโดล่มลงมา แต่เดี๋ยวนี้ เราสามารถเห็นก้อนเมฆมาอยู่ตรงหน้าของเราได้แล้ว ต้องขอเสียงปรบมือให้กับผู้ที่คิดค้นรายนี้ ขอบอกว่าเยี่ยมจริงๆครับ นายเบร์นเนาท์ สมิลด์

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น